จั๊กจั่น รันทด เงินกว่า 10 ล้านหมดเกลี้ยง เหลือไม่พอยาไส้ ต้องขอยืมเพื่อน

จั๊กจั่น รันทด เงินกว่า 10 ล้านหมดเกลี้ยง เหลือไม่พอยาไส้ ต้องขอยืมเพื่อน : ทำเอาแฟนคลับตกอกตกใจอย่างมาก เมื่อล่าสุด “จั๊กจั่น วันวิสา” นักร้องลูกทุ่งสาวเสียงดี ทำงานในวงการมา 15 ปี อยู่แกรมมี่โกลด์มา 14 ปี อยู่อาร์สยาม 1 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นนักร้องอิสระ ทำธุรกิจผิดพลาด เงินกว่า 10 ล้านหมดเกลี้ยง เหลือเงินไม่พอยาไส้ ขอยืมเงินเพื่อนทั้งวงการ วันนี้ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง ถึงเวลาตอบแทนผู้มีพระคุณ

โดย จั๊กจั่น เล่าว่า ช่วงโควิดที่ทำให้หมดตัว เพราะหลังจากที่ตัดสินใจมาเป็นนักร้องอิสระ เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็เอามาลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง คงเหมือนทุกๆ คนนั่นแหละ นอกจากมีอาชีพนักร้องแล้ว เราก็อยากมีอาชีพที่สอง เพื่อรองรับถ้าวันหนึ่งเราไม่มีงานร้องเพลง เราจะได้มีอาชีพทำ ซึ่งก็เลือกเปิดร้านอาหาร จ้างพนักงาน ลูกน้องช่วยกันทำ เปิดร้านอาหาร ลงทุนไปเยอะมาก สถานที่ วัตถุดิบต่างไป

“พอดีว่าตอนนั้นมันเป็นช่วงโควิด รัฐบาลประกาศปิดๆ เปิดๆ เงินก็ไปจมกับร้านอาหาร เราก็สู้ ไหนจะลูกน้อง เงินเดือนพนักงาน ค่าใช้จ่ายต่างๆ บางเดือนค่าไฟยังไม่พอจ่าย ในที่สุดก็เจ๊ง หมดตัว ตอนนั้นเครียดมากว่าจะทำไงดี ร้องเพลงก็ยังไม่ได้ บางวันเหลือเงินไม่ถึงพันบาท” “จั๊กจั่น วันวิสา” อธิบาย

ส่วนประเด็นที่ว่า ขอยืมเงินทั่ววงการ เธอเล่าว่า อันที่จริงขอยืมเพื่อนๆ มากกว่า พอเพื่อนรู้ว่าเราลำบากมากเพื่อนก็ยื่นมือเข้ามาช่วย ให้ยืมเงิน เราไปขอยืมบ้างเพื่อเอามาหมุน ถามว่าเกรงใจเพื่อไหม มันก็เกรงใจนะ แต่เพราะเราไม่รู้ว่ายืมแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาคืนเขา บางคนก็ใจดีให้ยืม บางคนก็ไม่ให้ยืม เราไม่โกรธใครเลย ช่วงนั้นทุกคนลำบากหมด

“แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะชีวิตจั่นเริ่มจากศูนย์ ครอบครัวยากจน เพราะฉะนั้นการที่เราจะมาจนอีกครั้งมันไม่แปลก แต่ใจเราสู้ ความสามารถเรามี เรายังร้องเพลงได้ มันต้องไม่อดตาย แค่รอให้สถานการณ์ดีขึ้น”

“ส่วนที่ว่า ตกต่ำจนต้องแย่งข้าวหมากิน นั้นมันเป็นคำเปรียบเปรย ไม่ได้แย่งข้าวหมากิน เมื่อก่อนเราจะมีเงินซื้อข้าวให้หมาจรจัด หมดวัด หมาข้างถนนตลอด พอวันที่ตกต่ำ เงินจะซื้อข้าวกินเองยังไม่มี พอเราผ่านไปที่เราเคยให้ข้าวหมา เราไม่มีเงินซื้อข้าวให้เขากิน หมาก็วิ่งกรูเข้ามาหาหวังว่าเราจะมีอาหารมาให้มันกิน มันทำตาปริบๆ เหมือนมีความหวัง จั่นน้ำตาไหล สงสารหมาก็สงสาร สงสารตัวเองก็สงสารตอนนี้หาเงินซื้อข้าวให้ตัวเองกินก่อนไหม”

ทั้งนี้เธอยังเล่าอีกว่า ปกติเป็นคนไม่ไหว้ ไม่มู และไม่เชื่ออะไรเลย ไหว้แต่พระ หลังจากที่ชีวิตตกต่ำที่สุด มันก็เกิดความอยากลอง เห็นบูชาพญานาคกันเยอะ ก็ลองไปไหว้ขอพร พญานาคสีชมพู ที่วัดวาโย จังหวัดฉะเชิงเทรา ในชีวิตไม่เคยเชื่อเรื่องพญานาค ขอให้ท่านแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็น ขอให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง จะกลับมารำถวายชุดใหญ่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากที่ไปขอพรพญานาค กลับมามีงานมีสปอร์นเซอร์ กลับมาฟูอีกครั้งจริงๆ จากจากนั่นก็ทำตามสัญญากลับไปรำถวายชุดใหญ่

ก่อนที่ เธอจะเล่าทิ้งท้ายว่า “หลังจากที่เรากลับมายืนได้อีกครั้ง ธุรกิจเติบโต มีรายได้เข้ามา จั่นช่วยทุกคนที่เดือนร้อน จั่นใช้หนี้ทุกคน จั่นช่วยเหลือทุกคนที่เคยช่วยเหลือเราตอนยากลำบาก จั่นขอตอบแทนผู้มีพระคุณทุกคนคะ”

Add a Comment

Your email address will not be published.